เมื่อชั้นปราการผิวถูกทำลาย
เมื่อชั้นปราการผิวถูกทำลายจากปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- ใช้สารทำความสะอาดที่รุนแรง
- ล้างหน้าหรืออาบน้ำด้วยน้ำอุ่นที่อุณหภูมิสูงไป
- ล้างหน้านานเกินไป หรือ บ่อยไป
- การเช็ดเครื่องสำอางก่อนแล้วค่อยล้างหน้า (ดับเบิ้ล คลีนซิ่ง)
- การใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาสิว ยาละลายหัวสิวที่มีส่วนผสมของกรดวิตามินเอ ซึ่งมีผลข้างเคียงทำให้ผิวแห้ง และหน้าลอกเป็นขุย
- การออกแดด โดยไม่ได้ทาผลิตภัณฑ์กันแดดป้องกันผิว
ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ ชั้นปราการผิว โดยเฉพาะไขมันที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิวเช่น เซราไมด์ถูกทำลายไป ผิวจึงไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นได้ และเกิดเป็นปัญหาผิวแห้ง แดง ระคายเคืองง่าย หรือ หน้าลอกเป็นขุย ในที่สุด
การเติมเซราไมด์ กลับเข้าสู่ผิวจึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ช่วยทำให้ผิวกลับมาชุ่มชื่น นุ่ม เนียน และอิ่มน้ำได้เหมือนเดิม เพราะเซราไมด์จะช่วยเสริมชั้นปราการผิวให้แข็งแรง อีกทั้งป้องกันการระเหยของน้ำออกจากผิว จึงช่วยบรรเทาอาการผิวแห้ง ผิวลอกได้เป็นอย่างดี
เติมเซราไมด์กลับเข้าผิวอย่างไรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
มอยซ์เจอร์ไรเซอร์ หรือครีมสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่ายทั่วไป หลังจากทาลงไปบนผิวแล้ว สามารถให้ความชุ่มชื่นกับผิวได้เฉลี่ย 4 ชั่วโมงหลังจากทา และความชุ่มชื่นในผิวจะค่อยๆ ลดลง จึงทำให้ผิวกลับมาแห้งได้อีกครั้ง และเราต้องคอยทาซ้ำบ่อย ๆ เพื่อให้ผิวไม่แห้งนั่นเอง
แต่นั่นไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป เพราะเซราวี มีเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะ ที่เรียกว่า MVE technology ซึ่งย่อมาจาก MultiVesicular Emulsion Technology เป็นนวัตกรรมที่ช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญต่างๆ เช่น เซราไมด์ คลอเรสเตอรอล กรดไขมันอิสระ ไฮยาลูรอนิกแอซิด ไฟโตสฟิงโกซีน และสารให้ความชุ่มชื่นต่างๆ กลับเข้าสู่ผิว อย่างต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมง หรือที่เราเรียกว่า “time-released” นั่นเอง
ความพิเศษของนวัตกรรม MVE นี้คือการออกแบบอิมัลชั่น ชนิดที่เรียกว่า น้ำมันในน้ำ (oil-in-water emulsion system) เพื่อบรรจุสารให้ความชุ่มชื้นชนิดต่างๆ อยู่ในรูปแบบของแคปซูลที่เรียงตัวซ้อนกันหลายๆ ชั้นคล้ายๆ ลักษณะของหัวหอมนั่นเอง
เมื่อทาลงไปบนผิว แต่ละชั้นของแคปซูลจะค่อยละลายออกมาทีละชั้น และปลดปล่อยสารให้ความชุ่มชื่นออกมาได้อย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะถึงแคปซูลชั้นในสุด จึงสามารถมอบความชุ่มชื่นให้กับผิวได้อย่างต่อเนื่องทีละนิดๆ ไม่มากจนเกินไป เนื้อสัมผัสที่ได้รับคือ ความสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ แต่คงความชุ่มชื่นยาวนาน ตลอด 24 ชั่วโมง
ครีมสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่ายที่มี MVE technology ดีกว่าอย่างไร
ผลิตภัณฑ์จากเซราวี ไม่ว่าจะเป็น โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย เช่น ไฮเดรติ้ง คลีนเซอร์ และ ไฮเดรติ้ง ครีม-ทู-โฟม คลีนเซอร์
รวมไปถึงครีมสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย เช่น มอยสเจอร์ไรซิ่ง โลชั่น มอยสเจอร์ไรซิ่ง ครีม และ พีเอ็ม เฟเชียล มอยสเจอร์ไรซิ่ง โลชั่น เป็นผลิตภัณฑ์ที่นอกจากจะมีส่วนผสมของเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว 3 ชนิด คือชนิดที่ 1,3 และ 6-II ที่ช่วยเสริมปราการให้ผิวและปกป้องผิวจากการแห้งกร้าน ผิวแห้ง หน้าลอกเป็นขุยแล้ว ยังมาพร้อมกับเทคโนโลยี MVE ที่จะค่อย ๆ ปลดปล่อยสารสำคัญต่าง ๆ สู่ผิวอย่างต่อเนื่อง จึงช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงตลอดเวลา ลดอาการผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องคอยทาครีมหรือโลชั่นบ่อย ๆ อีกต่อไป
สรุป
การดูแลผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย นอกจากจะต้องเลือกใช้ โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย และ ครีมสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ชนิดที่จำเป็นต่อผิวที่จะช่วยเสริมปราการผิวแล้ว ยังต้องมีนวัตกรรม MVE technology ที่ช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญออกมาสู่ผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประโยชน์ต่อการดูแลผิวได้มากที่สุดนั่นเอง
สรุป
การดูแลผิวแห้ง ผิวลอกเป็นขุย นอกจากจะต้องเลือกใช้ โฟมล้างหน้าสำหรับผิวแพ้ง่าย และ ครีมสำหรับผิวแพ้ง่าย ที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ชนิดที่จำเป็นต่อผิวที่จะช่วยเสริมปราการผิวแล้ว ยังต้องมีนวัตกรรม MVE technology ที่ช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญออกมาสู่ผิวอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ประโยชน์ต่อการดูแลผิวได้มากที่สุดนั่นเอง