รู้ได้อย่างไรว่ากำลังมีอาการของผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง
หากเริ่มมีอาการคันตามผิวหนัง ผื่นแดง ผิวแห้งเป็นขุย ยิ่งเหงื่อออกมากก็จะยิ่งคันมากอาการเหล่านี้จะเป็น ๆ หาย ๆ และเป็นจุดสังเกตว่าคุณอาจจะกำลังมีอาการของผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ในรายที่มีอาการเรื้อรังจะเห็นได้ว่าผิวหนังจะเริ่มหนาขึ้นหรือมีรอยคล้ำในตำแหน่งที่เป็น อาการที่จะรุนแรงหรือไม่นั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับสภาพความแข็งแรงของเกราะป้องกันผิวหนังด้วย
โดยอาการของโรคเกิดขึ้นจากหลายปัจจัยร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นพันธุกรรม สิ่งแวดล้อม เชื้อโรค เครื่องสำอางที่ทำให้เกิดอาการแพ้ ฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลง หรือภาวะการเกิดภูมิแพ้ ซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิดอาการผื่นขึ้นมาได้ และอาจส่งผลกระทบทางด้านจิตใจในรายที่มีอาการรุนแรงและเรื้อรัง
ตำแหน่งที่มักเกิดผื่น
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังที่เกิดขึ้นบนผิวหนังเกิดขึ้นได้หลายตำแหน่ง โดยบริเวณที่มักสังเกตเห็นได้ง่ายมักเป็นพื้นที่ใกล้เคียงกัน เช่น- ข้อพับต่าง ๆ เช่น แขน ขา ข้อศอก ข้อมือ ข้อเท้า
- ใบหน้า พบได้บริเวณแก้ม รอบริมฝีปาก เปลือกตา
- บริเวณลำคอ
- หลังต้นขา
- ตำแหน่งที่เกิดการเสียดสีบนผิวหนัง
- ผิวหนังมีตุ่มพอง
จะเห็นได้ว่าการเกิดผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเกิดขึ้นมาจากหลายสาเหตุ และสามารถเกิดได้ในหลาย ๆ ตำแหน่ง โดยจะสังเกตเห็นผื่นที่เกิดขึ้นได้ทั่วร่างกาย คนที่รู้สึกว่าอาจจะมีภาวะเสี่ยงที่จะมีอาการ ควรทำความเข้าใจเพื่อจะได้หาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดอาการดังกล่าวขึ้น อย่างน้อยที่สุด แม้จะไม่ได้รักษาจนหายขาด แต่ก็จะไม่มีอาการรุนแรง
การวินิจฉัยหาสาเหตุและวิธีการรักษา
เมื่อสงสัยว่าผื่นที่เป็นอาจจะเป็นอาการของผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ควรทำอย่างไร? วิธีที่ช่วยหาคำตอบได้ดีที่สุดคือ การวินิจฉัยโรคโดยแพทย์ โดยส่วนใหญ่แล้วคนที่มีอาการผื่นมักจะหาแนวทางการแก้ปัญหาใหักับตัวเองมาก่อนแล้ว แต่หากอาการไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์ เพื่อหาแนวทางแก้ปัญหาที่เหมาะกับอาการที่เป็น
แนวทางการวินิจฉัยเพื่อแก้ปัญหา มักเริ่มต้นด้วยการซักประวัติผู้ป่วยโดยแพทย์ ตรวจร่างกาย ซักถามปัญหา แล้วหาสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการ และในบางครั้งอาจมีการทดสอบอาการแพ้ บริเวณท้องแขนด้วยสารก่ออาการแพ้ หรือนำตัวอย่างเนื้อเยื่อไปตรวจหาโรคด้วยการส่องกล้องจุลทรรศน์
อาการของโรคเกิดกับใครได้บ้าง
ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน ขึ้นอยู่กับปัจจัยและความเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรค โดยอาการจะแสดงออกแตกต่างกันไปตามช่วงวัย มีลักษณะของอาการ ดังนี้- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังวัยทารก - อาการมักเกิดกับเด็กในวัยทารก ผื่นมักกระจายไปตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย บริเวณแขน ขาพับ หรือบริเวณที่เกิดการเสียดสีจนทำให้เกิดการระคายเคือง
- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังวัยเด็ก - สามารถเกิดกับเด็กเล็กจนถึงเด็กในวัยเรียน อาการที่มักพบผื่นผิวหนังบริเวณลำคอ ข้อพับต่าง ๆ และอาจมีตุ่มพองเกิดขึ้น ผิวหนังจะเริ่มหนา และแข็งขึ้นเมื่อเกาบริเวณที่เกิดอาการคัน
- ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังวัยผู้ใหญ่ - ผื่นที่เกิดขึ้นมักเกิดกับวัยรุ่นจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาการอาจเกิดขึ้นเฉพาะส่วน มักเป็นผื่นแห้ง และหนากว่าผื่นในวัยเด็ก และผื่นภูมิแพ้ผิวหนังผู้ใหญ่จะมีสาเหตุหลัก ๆ มาจากการสัมผัสสารระคายเคืองต่าง ๆ
การดูแลรักษาอาการผื่น
การป้องกันการเกิดผื่นที่ดีที่สุด คือการสังเกตอาการและพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดโรค เช่น การสังเกตตัวเองว่าได้สัมผัสกับสิ่งใดแล้วทำให้เกิดอาการหรือไม่ หากรู้ว่าเกิดอาการด้วยสิ่งใดก็จะช่วยให้สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เมื่อเกิดผื่นคันขึ้นแล้วก็ต้องรักษาด้วยวิธีที่เหมาะกับโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง รักษาได้ด้วยวิธีการที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับลักษณะอาการของผู้ป่วย ความรุนแรงของโรค หากมีอาการรุนแรงมาก แพทย์จะให้การรักษาด้วยการจ่ายยาแก้แพ้แก้อักเสบ (กลุ่มสเตียรอยด์) หรือยาบรรเทาอาการคัน ร่วมกับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว เพื่อให้ชั้นปราการผิวแข็งแรงขึ้น แต่ถ้าอาการไม่รุนแรง ผู้ป่วยสามารถบรรเทาอาการคัน หรืออาการอักเสบของผิวหนังเบื้องต้นด้วยการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว เช่น การทาครีม โลชั่น ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ ชนิดที่จำเป็นต่อผิว เพื่อเสริมชั้นปราการผิวให้แข็งแรงและบรรเทาอาการคันระคายเคืองเล็กน้อยได้ นอกจากนี้ควรใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีความอ่อนโยน ปราศจาก แอลกอฮอล์ สารแต่งสี น้ำหอม หรือสารกันเสียพาราเบน เพื่อไม่ให้ผิวต้องถูกทำร้ายหรือมีความเสี่ยงที่จะเกิดการแพ้หรือระคายเคืองมากไปกว่าเดิม