ปราการผิวกับริ้วรอยเกี่ยวกันอย่างไร?
ช้นปราการผิวมีความสำคัญ ต่อร่างกายของเราหลายอย่าง อาทิ ปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ฝุ่น ควัน มลภาวะ เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรค และในขณะเดียวกัน ชั้นปราการผิวก็ยังช่วยป้องกันการระเหยของน้ำและความชุ่มชื้นออกจากผิวได้อีกด้วย ปราการผิวที่ดี จะทำให้ผิวมีสุขภาพดี เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น ไม่หยาบกร้านหรือมีริ้วรอยจากผิวขาดน้ำ
ปัจจัยที่ทำให้ชั้นปราการผิวถูกทำลาย
ชั้นปราการผิวถูกทำลายไป อาจจะด้วยปัจจัยต่าง ๆ เช่น
- ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ร้อนเกินไปก็ทำให้มีน้ำระเหยออกจากผิวมากขึ้นกว่าปกติ หรืออยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลา ผิวก็จะขาดน้ำและดูแห้งเหี่ยว (ภาวะ skin dehydration)
- ปัจจัยจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรม เช่น การอาบน้ำอุ่นเกินไป อาบน้ำนานเกินไป หรือใช้คลีนเซอร์ที่มีความเป็นด่าง ทำให้ปราการผิวถูกทำลาย
ผลลัพธ์ของปราการผิวถูกทำลาย
เมื่อปราการผิวถูกทำลายไป ผิวจะขาดความชุ่มชื้น แห้ง ดูเหี่ยวและไม่เต่งตึง ผิวชั้นอิพิเดอร์มิส จึงสามารถยุบตัวลงมาเกิดเป็นริ้วรอยร่องตื้น (fine lines) อีกทั้งจะมีปริมาณของอนุมูลอิสระเกิดขึ้นในผิว ส่งผลให้เกิดการทำลายเส้นใยคอลลาเจน และอิลาสติน รวมไปถึงไฮยาลูรอนในผิวชั้นเดอร์มิส จึงทำให้เกิดริ้วรอยลึกตามมาได้อีก นอกจากนี้เซราไมด์ที่ลดลงจะทำให้โครงสร้างผิวอ่อนแอและง่ายต่อการเกิดริ้วรอยอีกด้วย
ทำไมวิตามินซีจึงช่วยลดริ้วรอยและปรับผิวกระจ่างใสได้
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้ว เมื่อปราการผิวไม่แข็งแรง ประกอบกับอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในผิว ส่งผลให้ผิวเราเกิดริ้วรอย และหมองคล้ำ ไม่กระจ่างใส นอกจากนี้ อนุมูลอิสระยังทำลายปราการผิว ทำลายเซราไมด์ในผิว อีกด้วย ดังนั้น การใช้วิตามินซี บริสุทธิ์ หรือ ascorbic acid ซึ่งหลาย ๆ คนทราบอยู่แล้วว่าสามารถช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงช่วยจัดการกับตัวการสำคัญที่ทำให้ปราการผิวถูกทำลายและต้นเหตุของการเกิดริ้วรอยได้
ประโยชน์ของวิตามินซี
- กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจน
- ผิวกระจ่างใส
วิตามินซียังมีการวิจัยด้วยว่า สามารถช่วยในการกระตุ้นให้มีการสร้างเส้นใยคอลลาเจนได้อีกด้วย1 โดยที่วิตามินซีจะเข้าไปกระตุ้นการทำงานของยีนส์ที่ผลิตโปรคอลลาเจนถึง 3 ชนิด ช่วยเพิ่มการหลั่งโปรคอลลาเจนออกจากเซลล์ และยังช่วยเพิ่มการสังเคราะห์ของโปรคอลลาเจนเพ็พไทด์ในผิวได้อีกด้วย1 ดังนั้นการใช้วิตามินซี บริสุทธิ์จึงมีส่วนช่วยในกระบวนการต่อต้านริ้วรอย ช่วยผลิตคอลลาเจน และทำให้ร่องริ้วรอยต่าง ๆ ตื้นขึ้น แต่ทั้งนี้ต้องมั่นใจได้ว่า วิตามินซีบริสุทธิ์ต้องสามารถซึมเข้าสู่ผิวและเข้าไปทำงานได้จริงด้วยนั่นเอง
วิตามินซียังทำให้ผิวมีความกระจ่างใสขึ้นได้ด้วย เพราะมีคุณสมบัติ exfoliating ช่วยในกระบวนการผลัดเซลล์ผิว ทำให้เซลล์ผิวที่หมองคล้ำไม่สดใส ค่อย ๆ ถูกผลัดออกไป และเผยผิวใหม่ที่กระจ่างใสและมีสุขภาพดี
อย่างไรก็ตาม หลายคนมักประสบปัญหาเมื่อใช้วิตามินซีบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูง บางคนอาจเกิดการระคายเคืองผิว รู้สึกยิบ ๆ ที่ผิว ไม่สบายผิวเมื่อทาผลิตภัณฑ์ลงไป บางครั้งอาจเกิดผลข้างเคียง เช่น ผิวแห้ง ผิวลอก แดง เป็นขุยจากคุณสมบัติของวิตามินซีที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวได้ นอกจากนี้ วิตามินซีบริสุทธิ์ มักจะมีปัญหาเรื่องความคงตัว ทำให้เมื่อเปิดใช้ผลิตภัณฑ์แล้ว บางแบรนด์ระบุให้ใช้ให้หมดขวดภายใน 2 สัปดาห์บ้าง 1 เดือนบ้าง แล้วแต่สูตรของแต่ละแบรนด์ไป จึงเป็นความท้าทายของวงการเวชสำอางในการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ผสมวิตามินซี บริสุทธิ์ ให้มีความคงตัวสูง (เปิดขวดแล้วใช้ได้นาน ๆ) อีกทั้งให้ความอ่อนโยนต่อผิวที่บอบบางแพ้ง่าย
เลือกใช้ผลิตภัณฑ์จากเซราวี มาพร้อมกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย
ขึ้นชื่อว่าเซราวี ย่อมไม่ทำให้ FC ผิดหวังแน่นอน เพราะวิตามินซี บริสุทธิ์จากเซราวี มาพร้อมกับประสิทธิภาพและความปลอดภัย การันตีด้วย 2 สิทธิบัตร ให้คุณมั่นใจยิ่งขึ้นในการใช้วิตามินซีบริสุทธิ์อย่างปลอดภัย สบายใจหายห่วง
วิตามินซีบริสุทธิ์
นวัตกรรมแรกที่เซราวีมีความภาคภูมิใจมาก ๆ ก็คือ การออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีบริสุทธิ์ที่มีความเข้มข้นสูงถึง 10% ให้มีความความคงตัวสูงมากและสามารถผสานเข้ากันกับเซราไมด์ได้อย่างลงตัว จนมีการจดสิทธิบัตรไว้2 (US Patent) พร้อมทั้งมีบทพิสูจน์เรื่องประสิทธิภาพในการลดเลือนริ้วรอยและเผยผิวกระจ่างใส โดย
และด้วยความคงตัวของวิตามินซีจากเซราวีนี้จึงทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถใช้ได้ยาวนานยิ่งขึ้น คือ สามารถใช้ได้ยาวนานถึง 6 เดือน หลังจากเปิดฝาผลิตภัณฑ์ครั้งแรก
เซราไมด์
ที่ขาดไม่ได้เลยคือ การเติมเซราไมด์กลับเข้าสู่ผิว เพราะถ้าหากปราการผิวไม่แข็งแรงจะส่งผลหลายอย่างมาก เช่น ทำให้โครงสร้างผิวยุบตัวเป็นร่องริ้วรอยได้ง่าย รวมไปถึง เมื่อผิวไม่แข็งแรงจะง่ายต่อการเกิดการระคายเคืองจากสารก่อการระคายเคืองและสารเคมีต่าง ๆ ได้ ในทางกลับกันถ้าปราการผิวแข็งแรงก็จะสามารถใช้ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ได้อย่างสบายใจมากยิ่งขึ้น ไม่ต้องห่วงหรือกังวลกับเรื่องแพ้หรือระคายเคือง
ซึ่งเซราวี วิตามินซีเซรั่ม ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเสริมชั้นปราการผิวให้แข็งแรง อาทิ
|
|
ซึ่งการเติมเซราไมด์ทั้ง 3 ชนิดกลับเข้าผิวจะทำให้ปราการผิวแข็งแรง มีสุขภาพดียิ่งขึ้น และสามารถใช้วิตามินซีได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
วิตามิน B5 หรือ Panthenol
นอกจากนี้อีกหนึ่ง ingredient ที่มีความสำคัญมาก ๆ ในเซราวีวิตามินซีเซรั่ม ก็คือวิตามิน B5 หรือ Panthenol ที่ช่วยในกระบวนการ cell regeneration จึงช่วยทำให้โครงสร้างผิวแข็งแรงและมีสุขภาพดียิ่งขึ้น ต่อต้านภัยร้ายจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ดียิ่งขึ้นและช่วยลดโอกาสที่จะเกิดการระคายเคืองจากการใช้วิตามินซีบริสุทธิ์ได้ด้วย
เทคโนโลยี MVE
และแน่นอนนอกจากสารสำคัญข้างต้นที่ใส่กันเข้ามาแบบจุก ๆ แล้ว ยังมี เทคโนโลยี MVE ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะผ่านการจดสิทธิบัตร7 (US patent) ของเซราวี ที่ช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญต่าง ๆ ข้างต้น ให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมง (time-release) และนี่คือความพิเศษของเซราวี วิตามินซีเซรั่ม ที่มี US patent รวมกันอยู่ถึง 2 อย่างเลยในหลอดเดียว
สูตร hypoallergenic
อ่านกันมาถึงตรงนี้แล้ว หลาย ๆ คนคงอยากใช้มาก ๆ และก็อาจจะมีคำถามว่า ตัวเองเคยใช้วิตามินซีมาก่อนหน้านี้แล้วรู้สึกไม่แฮปปี้ มีความระคายเคืองเกิดขึ้น...ต้องบอกเลยว่าวิตามินซีเซรั่ม จากเซราวีมอบความปลอดภัยให้กับคุณได้แน่นอน เพราะเป็นสูตร hypoallergenic ผิวที่บอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายมั่นใจได้เลย ปราศจากสารแต่งสี, สารกันเสียพาราเบน และ น้ำหอม อีกทั้งไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) นอกจากนี้เรายังมีการทำการทดสอบเรื่องของความทน/ความเซนซิทีฟ ต่อการใช้เซรั่ม หรือที่เรียกว่า tolerability test ทดลองใช้เซรั่ม ยาวนานถึง 8 สัปดาห์ในอาสาสมัคร ก็ไม่พบว่ามีการแพ้หรือการระคายเคืองแต่อย่างไร
สรุป
เซรั่ม วิตามินซี บริสุทธิ์ จากเซราวี มาพร้อมกับวิตามินซีบริสุทธิ์ เข้มข้น 10% ที่จัดเต็มเรื่องความคงตัวสูงของวิตามินซีบริสุทธิ์ อีกทั้งประสิทธิภาพในการลดริ้วรอยและปรับผิวกระจ่างใส ในขณะเดียวกันก็มอบความอ่อนโยนและปลอดภัยด้วยสูตรที่ hypoallergenic ผิวบอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายใช้ได้อย่างมั่นใจ อีกทั้งช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรง ทำให้สาว ๆ สามารถใช้วิตามินซีบริสุทธิ์ได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น
1. Sheldon R. Pinnell, MD; Saood Murad, PhD; Douglas Darr, PhD. Induction of Collagen Synthesis by Ascorbic Acid: A Possible Mechanism. JAMA Dermatology July 2022
2. US patent number: 10,973,749
3. ผลการทดสอบความพึงพอใจในอาสาสมัคร 55 คน หลังใช้ผลิตภัณฑ์ต่อเนื่อง 8 สัปดาห์ โดยสถาบันวิจัยลอรีอัล ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อตุลาคม 2019
4. Choi MJ, Maibach HI. Role of ceramides in barrier function of healthy and diseased skin. Am J Clin Dermatol. 2005;6(4):215-223.
5. Huang H-C, Chang T-M, Ceramide 1 and ceramide 3 act synergistically on skin hydration and the transepidermal water loss of sodium lauryl sulfate-irritated skin, Int’l J of Dermatology, 2008, 47, 812–8193
6. Di Nardo, A., Ungino, K., et. al., Sodium lauryl sulfate (SLS) induced irritant contact dermatitis, Contact Dermatitis, 1996, 35, 86-91.
7. US Patent 6,709,663