วิธีเลือกครีมทาผิวผู้ชาย และวิธีการดูแลให้ผิวสุขภาพดี

ในปัจจุบันเรื่องการดูแลผิว ก็เป็นสิ่งที่ผู้ชายควรให้ความสำคัญ ผิวผู้ชายดูแลอย่างไรดี โครงสร้างผิวก็ไม่เหมือนกับผิวของผู้หญิง ปัญหาผิวต่าง ๆ ก็ไม่เหมือนกัน แล้วสกินแคร์ ครีมทาผิว จะใช้เหมือนกันได้ไหม? วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับผิวของผู้ชายและการวิธีการดูแลให้ผิวสุขภาพดี พร้อมแล้วตามมาดูกัน

ผิวของผู้ชายกับผู้หญิง แตกต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างมีหลายด้านดังนี้

  • ความหนาของผิวหนัง ผิวของผู้ชายมีความหนามากกว่าผิวของผู้หญิง จากการวิจัยโดยเทียบหลาย ๆ ส่วนของร่างกายไม่ว่าจะเป็นบนใบหน้า โหนกแก้ม ลำคอ ฯลฯ ผิวของผู้ชายโดยเฉลี่ยมีความหนามากกว่าผิวของผู้หญิงถึงประมาณ 10-20% เลยทีเดียว1
  • ระดับ hydration ผิวของผู้ชายโอบอุ้มความชุ่มชื้นได้น้อยกว่าผิวของผู้หญิง เมื่อมีการวัดด้วยเครื่องมือที่ชื่อว่า Corneometer พบว่าผิวของผู้หญิงโดยเฉลี่ยแล้วมีความชุ่มชื่นหรืออุ้มน้ำในผิวได้มากกว่าผู้ชาย2 ดังนั้นจึงทำให้ผิวของผู้ชายมีความกร้านมากกว่า และมีแนวโน้มที่จะเกิดเป็นริ้วรอยจากผิวขาดน้ำได้ง่ายกว่าผู้หญิง
  • ความแข็งแรงของโครงสร้างผิว หรือปราการผิว จะตรงกันข้ามกับความชุ่มชื้นเลย เพราะผิวของผู้ชายมีความแข็งแรงของปราการผิวที่มากกว่าผู้หญิงอย่างชัดเจน พบว่าค่า TEWL ซึ่งบ่งบอกถึงความแข็งแรงของปราการผิวในผิวผู้ชายมีค่าต่ำกว่า2 นั่นหมายความว่าผิวผู้ชายมีแข็งแรงกว่า มีความสามารถในการป้องกันตัวเองจากสิ่งแวดล้อมภายนอกได้ดีกว่านั่นเอง
  • ความมันบนใบหน้า เดาได้ไม่ยากเลยสำหรับประเด็นนี้... ด้วยอิทธิพลของฮอร์โมนเพศชาย ทำให้ผิวของผู้ชายมีขนาดของต่อมไขมันที่ใหญ่กว่าและปริมาณของน้ำมันที่ขับออกมาก็มากกว่าด้วย ส่งผลให้ผู้ชายมักจะเป็นสิวง่ายกว่าและมีรูขุมขนที่กว้างตามมาด้วย2
  • ความยืดหยุ่นและริ้วรอย พบว่าผู้ชายมีระดับความยืนหยุ่นของผิวที่น้อยกว่าผู้หญิง และมีแนวโน้มที่จะเกิดริ้วรอยได้มากกว่าผู้หญิง3 ส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากปัจจัยเรื่องการโอบอุ้มความชุ่มชื้นที่น้อยกว่าผู้หญิงนั่นเอง

เซราไมด์กับความจำเป็นในการดูแลผิวผู้ชาย

จะเห็นได้ว่า แม้ผิวของผู้ชายจะมีโครงสร้างที่แข็งแรงมากกว่า ปราการผิวแข็งแรงกว่าผู้หญิง แต่ผิวของผู้ชายมีความสามารถในการโอบอุ้มความชุ่มชื้นเอาไว้ได้น้อยกว่า จึงทำให้มีโอกาสที่จะเกิดริ้วรอยได้ง่ายกว่า นอกจากนี้ การผลิตไขมัน sebum ก็มากกว่าทำให้มีแนวโน้มที่จะเป็นสิวได้ง่ายกว่าด้วย

เซราไมด์เป็นสารที่มีอยู่แล้วในผิวตามธรรมชาติ และมีความจำเป็นต่อความแข็งแรงของชั้นปราการผิว อีกทั้งมีคุณสมบัติเป็น emollient ที่ช่วยทำให้ผิวมีความนุ่มมากยิ่งขึ้น ช่วยกักเก็บน้ำเอาไว้ในผิวโดยป้องกันไม่ให้น้ำระเหยออกไปจากผิวได้ง่าย เมื่อได้มีการเติมเซราไมด์กลับเข้าสู่ผิว จึงทำให้ผิวมีความเนียน นุ่ม ชุ่มชื่นมากยิ่งขึ้น ช่วยป้องกันการเกิดริ้วรอยก่อนวัยได้ ผิวจะกลับมามีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีงานวิจัยพบอีกว่า ระดับเซราไมด์ในผิวที่ลดลง มีความสัมพันธ์กับระดับความรุนแรงของสิวที่มากยิ่งขึ้น ยิ่งถ้าผิวเรามีความแข็งแรงเพราะมีเซราไมด์อยู่มากก็จะมีความสัมพันธ์กับความรุนแรงของสิวที่ลดน้อยลง ดังนั้นการที่เรารักษาสมดุลของระดับเซราไมด์ในผิวจึงช่วยเสริมปราการผิวให้แข็งแรงและต่อสู้กับปัญหาสิวที่เกิดขึ้นได้

แต่อย่างไรก็ตาม ด้วยโครงสร้างผิวของผู้ชาย และการผลิตน้ำมันที่เยอะกว่าผู้หญิง การเลือกเนื้อสัมผัสหรือ texture ของผลิตภัณฑ์จึงมีความสำคัญอย่างมากต่อการดูแลผิวของผู้ชายอย่างถูกวิธี

การเลือกครีมทาผิว และคลีนเซอร์ สำหรับผู้ชาย

มาพูดถึงการเลือกคลีนเซอร์กันก่อนดีกว่า… สำหรับผิวผู้ชาย ซึ่งปกติจะมีการผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติอยู่แล้ว มีปัญหาเรื่องรูขุมขนกว้าง และเป็นสิวได้ง่าย คลีนเซอร์ที่เหมาะกับผิวผู้ชาย จึงควรมีเนื้อฟองโฟมที่อ่อนนุ่ม เข้าทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึกตามรูขุมขนต่าง ๆ อีกทั้ง ต้องไม่ทำร้ายชั้นปราการผิว เพื่อที่ผิวจะได้ไม่เสี่ยงต่อการเป็นสิวได้ง่ายอีกด้วย ซึ่งคลีนเซอร์จากเซราวี มีอยู่ 2 ไอเทมด้วยกันที่เหมาะมาก ๆ ได้แก่

เซราวี โฟมมิ่ง คลีนเซอร์

ทำความสะอาดได้อย่างสะอาดหมดจด ฟองโฟมนุ่ม ทำความสะอาดได้ลำลึก เหมาะสำหรับผิวผสม-ผิวมัน และยังมีงานวิจัยด้วยว่า สามารถใช้ร่วมกับยารักษาสิวได้อย่างปลอดภัย5 (เผื่อหนุ่ม ๆ คนไหนต้องทายาสิวด้วย สบายใจได้เลยว่าใช้แล้วหน้าไม่พังแน่นอน)

ครีมทาผิว เซราวี เซราฟ

เซราวี เอสเอ สมูธติ้ง คลีนเซอร์

เป็นคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนเหมือนสูตรแรกเลย แต่เพิ่มฟีเจอร์สำหรับคนที่อยากได้ผิวหน้าที่เรียบเนียนมากยิ่งขึ้น เพราะผิวผู้ชายบางคนอาจมีปัญหารอยสิว สิวผดเม็ดเล็ก ๆ หรือผิวที่ไม่เรียบเนียนทำให้เสียความมั่นใจไป ซึ่งคลีนเซอร์สูตรนี้มีส่วนผสมของ ซาลิไซลิก แอซิด และ PHA ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวที่หมองคล้ำและช่วยเผยผิวกระจ่างใสได้เร็วยิ่งขึ้น โดยที่ไม่ทำร้ายชั้นปราการผิว

ครีมทาผิว เซราวี เซราฟ

สำหรับการดูแลผิวหน้า หลังจากล้างหน้าแล้วสามารถใช้ เซราวี เฟเชี่ยล มอยส์เจอร์ไรซิ่ง พีเอ็ม (PM) ทาผิวต่อได้เลย ทั้งเช้าและเย็น ความโดดเด่นของสูตร PM ก็คือ เนื้อสัมผัสที่เป็นรูปแบบเจลครีม เบา สบายผิว ซึมซาบเข้าสู่ผิวเร็วเป็นพิเศษ พร้อมนวัตกรรม MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะของเซราวี ที่ช่วยนำส่งสารสำคัญเข้าสู่ชั้นผิวอย่างต่อเนื่อง (time-release) จึงให้ผิวชุ่มชื่นได้ยาวนาน โดยที่ไม่ทำให้รู้สึกเหนอะหนะหรือไม่สบายผิวเลย ซึ่งในสูตรนี้จะมีส่วนผสมพิเศษ คือ 4% ไนอาซินาไมด์ ที่มีส่วนช่วยในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบของผิว ต่อต้านอนุมูลอิสระ และช่วยการลดรอยสิวได้ด้วย และเช่นเดียวกันสูตรนี้ยังมีการวิจัยเช่นเดียวกันว่าสามารถใช้คู่กับยารักษาสิว เพื่อเสริมการทำงานของยารักษาสิว อีกทั้งยังลดผลข้างเคียงเช่น ผิวแห้ง ผิวลอก แสบ แดง จากการใช้ยารักษาสิวได้อีกด้วย5

ครีมทาผิว เซราวี เซราฟ

ส่วนครีมทาผิวกายสามารถใช้ เซราวี มอยส์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น ได้เลยเช่นเดียวกัน สูตรนี้มีนวัตกรรม MVE ลิขสิทธิ์เฉพาะ และ texture ที่เบาสบายผิวเป็นพิเศษ ไม่ทำให้เหนอะหนะผิวแม้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่กลางแจ้งหรือมีไลฟ์สไตล์ outdoor ตลอดเวลาก็ตาม ทุก ๆ ผลิตภัณฑ์ของเซราวี ประกอบไปด้วยส่วนผสมที่ช่วยเสริมชั้นปราการผิวให้แข็งแรง อาทิ

ครีมทาผิว เซราวี เซราฟ

ครีมทาผิว เซราวี เซราฟ

  1. เซราไมด์ 1 : เสริมความแข็งแรงของชั้นไขมันระหว่างเซลล์ผิว6
  2. เซราไมด์ 3 : ช่วยคงความชุ่มชื่นในระยะยาว7
  3. เซราไมด์ 6-II : เป็น Natural Moisturizing Factor หรือ สารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวตามธรรมชาติ8

อีกทั้ง Phytosphingosine, Cholesterol, Fatty acid และ Hyaluronic acid จึงมั่นใจได้ว่าผิวของคุณจะได้รับการดูแล ให้กลับมาเนียนนุ่ม ชุ่มชื่น และด้วยสูตรที่แนะนำไปนั้น มีเนื้อสัมผัสที่เบาสบายผิว ไม่ทำให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic) อีกทั้งปราศจากปัจจัยที่จะทำให้เกิดการแพ้หรือระคายเคือง เพราะปราศจากน้ำหอม, สารแต่งสี และ สารกันเสียพาราเบน … สำหรับคุณผู้ชายที่ผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ก็สามารถใช้ได้อย่างมั่นใจ

สรุป

เพราะผิวผู้ชายมีความแตกต่างจากผู้หญิง การเลือกครีมทาผิวจึงต้องพิถีพิถันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะเนื้อสัมผัสที่จะต้องเบาสบายผิว ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน อีกทั้งควรมีเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิวทั้ง 3 ชนิด เพื่อคงความแข็งแรงของเกราะปกป้องผิวตามธรรมชาติ ให้ผิวมีสุขภาพที่ดี ห่างไกลผิวแห้ง กร้าน ปัญหาสิว และริ้วรอยที่จะเกิดขึ้น และอย่าลืมที่จะทาผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวจากแสงแดดทุกครั้งก่อนออกแดดกันด้วย เพื่อผิวที่แข็งแรงและสุขภาพดีไปอีกนาน

1.Bailey S.H., Oni G., Brown S.A., Kashefi N., Cheriyan S., Maxted M. The use of non-invasive instruments in characterizing human facial and abdominal skin. Lasers Surg Med. 2012;44:131–142.

2.Firooz A., Rajabi-Estarabadi A., Zartab H., Pazhohi N., Fanian F., Janani L. The influence of gender and age on the thickness and echo-density of skin. Skin Res Technol. 2017;23:13–20.

3.Tsukahara K., Hotta M., Osanai O., Kawada H., Kitahara T., Takema Y. Gender-dependent differences in degree of facial wrinkles. Skin Res Technol. 2013;19:e65–e71.

4.https://www.ncbi.nlm.nih.gov/pmc/articles/PMC6116811/#bb0240

5.Protocol: A 12-week, single center, randomized, double-blind clinical study was conducted on 91 women and men, ages 13 - 40. Subjects were prescribed Adapalene (0.3%)/Benzoyl Peroxide(2.5%) Gel. The adjunctive treatment cell used Foaming Cleanser and PM Facial Moisturising Lotion.

6.Choi MJ, Maibach HI. Role of ceramides in barrier function of healthy and diseased skin. Am J Clin Dermatol. 2005;6(4):215-223.

7.Huang H-C, Chang T-M, Ceramide 1 and ceramide 3 act synergistically on skin hydration and the transepidermal water loss of sodium lauryl sulfate-irritated skin, Int’l J of Dermatology, 2008, 47, 812–8193

8.Di Nardo, A., Ungino, K., et. al., Sodium lauryl sulfate (SLS) induced irritant contact dermatitis, Contact Dermatitis, 1996, 35, 86-91.