เรื่องราวของเซราวี
นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้ง แพทย์ผิวหนังผู้เชี่ยวชาญมีบทบาทสำคัญในทุกเรื่องราวของเซราวี จุดเริ่มต้นของเรามาจากวิสัยทัศน์ที่ต้องการสร้างมาตรฐานใหม่ในการดูแลผิว ภายใต้คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังชั้นนำ ความรู้ความเข้าใจเชิงลึกเกี่ยวกับสุขภาพผิวของแพทย์ผิวหนัง เป็นรากฐานสำคัญในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ของเรา และความมุ่งมั่นในการดูแลสุขภาพผิวนี้ คือสิ่งที่เรายึดมั่นอย่างต่อเนื่อง
สารบัญ
- การกดสิวเป็นทางออกจริงหรือไม่
- การดูแลที่ถูกวิธี เพื่อผิวใสไร้สิวอย่างยั่งยืน
การกดสิวเป็นทางออกจริงหรือไม่
การกดสิวเป็นทางออกจริง แต่การกดสิวเป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของการดูแลเท่านั้น เพราะการกดสิวเป็นการกำจัดหัวสิวที่เกิดการอุดตันสะสมอยู่ใต้ผิวหนังออกไปได้ แต่การจะกดสิวแล้วหายขาดอย่างถาวรนั้นไม่เป็นความจริงทั้งหมด เพราะสาเหตุหลักของการเกิดสิวอุดตันยังคงอยู่ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตไขมันที่มากเกินไป การผลัดเซลล์ผิวที่ผิดปกติ หรือปัจจัยกระตุ้นอื่น ๆ โดยการอุดตันจนเป็นสิวนั้น เกิดจากการที่รูขุมขนเกิดการอุดตันจากเซลล์ผิวที่ตายแล้ว ไขมัน (Sebum) และสิ่งสกปรกต่าง ๆ สะสมอยู่ภายในรูขุมขน โดยไม่สามารถระบายออกไปได้ ทำให้เกิดเป็นก้อนนูนเล็ก ๆ ใต้ผิวหนัง

ข้อดีของการกดสิว
การกดสิวมีข้อดี อย่างที่กล่าวไปข้างต้นเป็นหนึ่งในการดูแลสิวเพื่อสิวที่อุดตันอยู่ใต้ผิวออกไป แต่การกดสิวนั้นควรดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น จึงจะทำให้เกิดข้อดีดังนี้
- กำจัดหัวสิว ช่วยขจัดสิ่งที่อุดตันอยู่ในรูขุมขนออกไปได้ทันที
- ลดความเสี่ยงการอักเสบ หากกดอย่างถูกวิธีและนำหัวสิวออกไปได้หมด จะช่วยลดโอกาสที่สิวอุดตันจะพัฒนาไปเป็นสิวอักเสบได้
- ผิวเรียบเนียนขึ้น เมื่อหัวสิวถูกกำจัดออก ผิวจะดูเรียบเนียนขึ้นในทันที
ข้อควรระวังและข้อเสียของการกดสิว
การกดสิวก็มีข้อควรระวังและข้อเสียที่เกิดขึ้นได้จากการกดสิวด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะการกดสิวด้วยตัวเอง ได้แก่
- เสี่ยงต่อการอักเสบและการติดเชื้อ หากกดไม่ถูกวิธี กดรุนแรงเกินไป หรืออุปกรณ์ไม่สะอาด อาจดันสิ่งสกปรกและแบคทีเรียลงไปในผิวหนังชั้นลึก ทำให้เกิดการอักเสบ ติดเชื้อ หรือเป็นหนองได้
- เกิดรอยแดง รอยดำ การกดสิวที่ผิดวิธีอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บต่อผิวหนัง ทำให้เกิดรอยแดงหลังกด และอาจทิ้งรอยดำคล้ำตามมา
- เกิดหลุมสิว การกดสิวที่รุนแรงจนเนื้อเยื่อผิวหนังเสียหาย อาจนำไปสู่การเกิดหลุมสิวถาวรได้
- สิวกลับมาเป็นซ้ำ การกดสิวเป็นเพียงการกำจัดสิ่งที่อุดตันออกไป แต่ไม่ได้แก้ที่สาเหตุของการเกิดสิว ทำให้สิวอุดตันสามารถกลับมาเกิดซ้ำได้อีก
ดังนั้น หากต้องการกดสิว ควรทำโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง หรือแพทย์ผิวหนังเท่านั้น เพื่อให้แน่ใจว่าการกดสิวเป็นไปอย่างถูกวิธี ปลอดภัย และลดความเสี่ยงของผลข้างเคียง
ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนแต่ล้ำลึก
ทำความสะอาดผิวหน้าอย่างอ่อนโยนแต่ล้ำลึก โดยจำเป็นต้องใส่ใจในการเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าช่วยดูแลปัญหาสิว และไม่ก่อให้เกิดการอุดตันเพิ่ม เช่น เซราวี เบลมมิช คอนโทรล คลีนเซอร์ที่มีส่วนผสม 2% Salicylic Acid และ Niacinamide พร้อมเสริมปราการปกป้องผิวให้แข็งแรงด้วย Ceramides ที่จำเป็นต่อผิวถึง 3 ชนิด ที่ช่วยทำความสะอาดสิ่งสกปรก ความมันบนใบหน้า โดยไม่ชำระล้างความชุ่มชื้นออกไป เผยผิวเนียนดูนุ่ม สุขภาพผิวดีและเรียบเนียนขึ้น ใช้ล้างหน้าวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น และหลังออกกำลังกาย และหลีกเลี่ยงการขัดถูผิวหน้าแรง ๆ เพราะอาจกระตุ้นการอักเสบ
ใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน
ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวและลดการอุดตัน จะช่วยให้ปัญหาสิวทุเลาลงได้ เช่น
- กลุ่ม Salicylic Acid (BHA) เป็นกรดที่ละลายในไขมันได้ดี สามารถซึมเข้าสู่รูขุมขน ช่วยละลายไขมันที่อุดตันและผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- กลุ่ม Alpha Hydroxy Acids (AHAs) เช่น Glycolic Acid, Lactic Acid ช่วยผลัดเซลล์ผิวชั้นบน ทำให้ผิวเรียบเนียนขึ้น และลดการอุดตันได้
- กลุ่ม Retinoids (เช่น Retinol, Tretinoin) ช่วยควบคุมการสร้างไขมัน ลดการอุดตัน และส่งเสริมการผลัดเซลล์ผิวอย่างเป็นปกติ
ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว
การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวเป็นสิ่งจำเป็น แม้จะเป็นคนผิวมัน ก็ยังต้องบำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์สูตรบางเบา ไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน เนื่องจากการที่ผิวแห้งเกินไปอาจกระตุ้นให้ร่างกายผลิตไขมันออกมามากขึ้นเพื่อชดเชย ซึ่งไขมันที่ผลิตออกมานั้นอาจทำให้เกิดการอุดตันได้
ปกป้องผิวจากแสงแดด
ปกป้องผิวจากแสงแดด คือ ขั้นตอนที่ขาดไม่ได้ของการดูแลผิว โดยควรเลือกกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมัน (Oil-free) และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (Non-comedogenic) เป็นประจำทุกวัน เพราะแสงแดดอาจทำให้สิวอักเสบและทิ้งรอยดำได้ง่ายขึ้น
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวัน
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในชีวิตประจำวันเป็นอีกหนึ่งวิธีการดูแลผิวที่ดี เนื่องจากพฤติกรรมบางอย่างที่อาจเกิดจากความเคยชินอาจทำให้เกิดปัญหาสิวที่ก่อกวนใจได้อย่างไม่รู้ตัว เช่น
- การแกะ บีบ แคะสิวด้วยตัวเอง คือ สาเหตุอันดับต้น ๆ ของการอักเสบและหลุมสิว จึงควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเหล่านี้
- ไม่ทำความสะอาดอุปกรณ์ที่สัมผัสใบหน้า เช่น ปลอกหมอน ผ้าเช็ดหน้า โทรศัพท์มือถือ แว่นตา ทำให้เกิดการสะสมของสิ่งสกปรกและแบคทีเรีย
- ไม่ใส่ใจผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผิวหน้า โดยควรปรับมาเลือกใช้เครื่องสำอางและผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่ Non-comedogenic เพื่อลดโอกาสการอุดตัน
- การดื่มน้ำเปล่าไม่เพียงพอ อาจทำให้สมดุลของร่างกายและผิวหนังเสียสมดุล ดังนั้นจึงควรดื่มน้ำเปล่าให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน
- การรับประทานอาหารที่ไม่มีประโยชน์ เช่น อาหารแปรรูป อาหารรสจัด หวานจัด มันจัด ควรปรับเปลี่ยนมารับประทานอาหารที่เน้นผัก ผลไม้ ธัญพืช
- ความเครียดสามารถกระตุ้นให้ฮอร์โมนในร่างกายทำงานผิดปกติ ซึ่งอาจส่งผลต่อการเกิดสิว ดังนั้นจึงควรจัดการความเครียดให้ดี
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ ทำให้ร่างกายเหนื่อยล้า การนอนหลับให้เพียงพอจะช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมตัวเองได้อย่างเต็มที่
การดูแลสิวที่อุดตันบนผิวหน้าด้วยการกดสิวทำได้ แต่ไม่ใช่วิธีการที่ดีที่สุดในการดูแลปัญหาสิว การดูแลผิวอย่างสม่ำเสมอและถูกวิธีอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยน การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิว การให้ความชุ่มชื้น และการปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต คือ สิ่งสำคัญที่จะช่วยให้ปัญหาสิวดีขึ้น และสุขภาพผิวที่ดีอย่างยั่งยืนมากกว่า