สภาพผิวของแต่ละคนแตกต่างกันอย่างไร
สภาพผิวของเรานั้นมีความแตกต่างกันไปแล้วแต่บุคคล ส่งผลให้ปราการผิวของแต่ละคนมีสัดส่วนของไขมัน และ น้ำ ที่แตกต่างกัน ยกตัวอย่างดังนี้จะมีการผลิตไขมันออกมาเคลือบคลุมผิว น้อยกว่าคนผิวธรรมดาหรือผิวผสม/มัน จึงทำให้ชั้นปราการผิวอ่อนแอกว่า และมีโอกาสที่ผิวหนังจะหลุดลอกออกไปได้ง่ายกว่าด้วย ดังนั้นเมื่อคนผิวแห้ง เผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่มาทำร้ายชั้นปราการผิว เช่น การอาบน้ำอุ่น การออกแดดโดยไม่ได้ป้องกันผิว หรือการใช้ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่มีการชะล้างน้ำมันหล่อเลี้ยงผิวออกมากเกินไป ก็จะทำให้ ไขมันที่อยู่ในชั้นปราการผิวถูกทำลาย ส่งผลให้เซลล์ผิวยึดเกาะกันได้ไม่ดี จนเกิดเป็นปัญหา ผิวแห้ง ตึง ลอกเป็นขุย ผิวจะบอบบาง มีแนวโน้มแพ้ง่าย และไวต่อปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ รวมไปถึงสารก่อภูมิแพ้มากยิ่งขึ้นไปอีก หากไม่รีบดูแล
ซึ่งมีปริมาณน้ำมันหล่อเลี้ยงผิว ผลิตออกมามากอยู่แล้ว แต่ปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้กับคนผิวมัน ก็คือ ปัญหาผิวขาดน้ำ จะมีความรู้สึกไม่สบายผิว รู้สึกตึงผิว ถ้าปัญหายังไม่ร้ายแรงก็จะยังไม่มีปัญหาลอกเป็นขุยแต่ถ้าปล่อยทิ้งไว้ ไม่ดูแล จะนำไปสู่ปัญหาผิวแห้ง ตึง ลอกเป็นขุยได้ในอนาคต และถ้ามีการทำความสะอาดที่ไม่ถูกต้อง เช่น ทำความสะอาดได้ไม่ดีพอ ก็จะทำให้เกิดปัญหาอุดตันรูขุมขน และกลายเป็นปัญหารูขุมขนอุดตัน และเกิดสิวได้ นอกจากนี้คนผิวมันก็ยังสามารถเผชิญกับปัจจัยที่มาทำร้ายชั้นปราการผิวได้เช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น การใช้น้ำอุ่นที่อุณหภูมิสูงเกินไปมาล้างหน้า หรือการใช้ผลิตภัณฑ์โทนเนอร์ ที่ผสมแอลกฮอล์ รวมไปถึงการใช้ยารักษาสิว ซึ่งส่วนใหญ่จะทำให้หน้าแห้ง และทำร้ายชั้นปราการผิวได้
นอกจากนี้ปัจจัยเรื่องของการแต่งหน้า ใช้ผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เมคอัพต่าง ๆ ก็ส่งผลต่อความสำคัญในการทำความสะอาดผิวด้วย ซึ่งถ้าทำความสะอาดผิวไม่ดีพอจะทำให้มีการอุดตัน กลายเป็นสิวได้ หรือ หากใช้วิธีเช็ดเครื่องสำอางออกก่อน ด้วยเมคอัพรีมูฟเวอร์ แล้วล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้าต่อ แบบนี้เรียกว่าการทำ ดับเบิ้ล คลีนซิ่ง...ซึ่งส่งผลต่อชั้นปราการผิว ทำให้ชั้นปราการผิวถูกทำลาย และมีการสูญเสีย NMF (Natural Moisturising Factor) ออกจากผิว ส่งผลให้ผิวแห้ง บอบบาง และระคายเคืองง่ายได้อีกด้วย
เซราไมด์มีบทบาทสำคัญต่อสภาพผิวแต่ละประเภทอย่างไร
ความแข็งแรงของชั้นปราการผิวมีบทบาทสำคัญมาก ๆ เราจึงควรดูแลผิวให้แข็งแรง และทำความสะอาดผิวอย่าถูกวิธี เพื่อให้ชั้นปราการผิวแข็งแรง มีสุขภาพดี สามารถป้องกันสิ่งแปลกปลอมภายนอกได้ และยังช่วยเพิ่มการกักเก็บความชุ่มชื้นให้กับผิวได้อีกด้วยดังนั้น หากเราจะทำให้ปราการผิวแข็งแรง นอกจากจะต้องหลีกเลี่ยงหรือป้องกันปัจจัยทำร้ายปราการผิว ข้างต้น ยังจะต้องเสริมชั้นไลปิดไบเลเยอร์ให้แข็งแรง เพื่อช่วยเสริมชั้นปราการผิวให้แข็งแรงและสุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีก ซึ่งองค์ประกอบของชั้นไขมัน หรือ ไลปิดไบเลเยอร์นั้น ประกอบไปด้วย
- เซราไมด์ 50%
- คลอเลสเตอรอล 25%
- และ แฟตตี้แอซิด 10-20%
ยกตัวอย่าง คนที่ผิวแห้ง จะชัดเจนที่สุด เพราะคนผิวแห้งจะมีชั้นปราการผิวที่อ่อนแอและมีชั้นไลปิดไบเลเยอร์ที่ไม่ค่อยสมบูรณ์อยู่แล้ว ถ้าได้เติมเซราไมด์เข้าผิวขณะที่ล้างทำความสะอาดผิว จะช่วยป้องกันโอกาสที่จะเกิดอาการหน้าแห้ง ตึง ลอกเป็นขุยได้เป็นอย่างดี หรือในคนที่มีปัญหาผิวผสม/ผิวมัน จากการวิจัยพบว่า หากมีปริมาณเซราไมด์ในผิวที่ลดน้อยลง จะมีความสัมพันธ์กับระดับความรุนแรงในการเกิดสิวได้มากยิ่งขึ้น นั่นหมายความว่า คนที่มีสภาพผิวผสม/ผิวมัน ก็ควรที่จะมีการเติมเซราไมด์กลับเข้าสู่ผิวเช่นเดียวกัน เพื่อให้ปราการผิวแข็งแรง และลดโอกาสที่จะเกิดปัญหาสิวรุนแรงได้ด้วย
เซราไมด์ที่จำเป็นต่อโครงสร้างผิว ทั้ง 3 ชนิด
โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่ายที่ดี จึงควรมีส่วนผสมของ เซราไมด์ เพื่อช่วยฟื้นบำรุงชั้นไขมันไลปิดไบเลเยอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และถ้าจะให้เห็นผลมากยิ่งขึ้น ควรมีส่วนผสมของเซราไมด์ที่จำเป็นต่อโครงสร้างผิว ทั้ง 3 ชนิด คือ- 1. เซราไมด์ 1 : เสริมความแข็งแรงของชั้นไขมันระหว่างเซลล์ผิว1
2. เซราไมด์ 3 : ช่วยคงความชุ่มชื่นในระยะยาว2
3. เซราไมด์ 6-II : เป็น Natural Moisturizing Factor หรือ สารที่ให้ความชุ่มชื่นกับผิวตามธรรมชาติ3
- 1. Choi MJ, Maibach HI. Role of ceramides in barrier function of healthy and diseased skin. Am J Clin Dermatol. 2005;6(4):215-223.
2. Huang H-C, Chang T-M, Ceramide 1 and ceramide 3 act synergistically on skin hydration and the transepidermal water loss of sodium lauryl sulfate-irritated skin, Int’l J of Dermatology, 2008, 47, 812–8193
3. Di Nardo, A., Ungino, K., et. al., Sodium lauryl sulfate (SLS) induced irritant contact dermatitis, Contact Dermatitis, 1996, 35, 86-91.
การเลือกโฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย
โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่ายจากเซราวีทุกรุ่น ล้วนมีส่วนผสมของ เซราไมด์ ที่จำเป็นต่อผิวทั้ง 3 ชนิด คือ เซราไมด์ 1,3,6-II ซึ่งจะช่วยเติมเต็มชั้นไขมันที่อยู่ระหว่างเซลล์ผิว (ไลปิดไบเลเยอร์) และช่วยฟื้นบำรุงชั้นปราการผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว อีกทั้งยังมีส่วนผสมอื่น ๆ ที่จะช่วยฟื้นบำรุงชั้นปราการผิวได้อย่างครบถ้วน อาทิ- คลอเลสเตอรอล
- แฟตตี้แอซิด
- ไฮยาลูรอนิคแอซิด
- ไฟโตสฟิงโกซีน
ซึ่งส่วนผสมทั้งหมดนี้ ถูกบรรจุอยู่ในเทคโนโลยี MVE ที่จะค่อย ๆ ควบคุมการปลดปล่อยสาระสำคัญได้อย่างต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมง จึงมั่นใจได้เลยว่า หากเติมเซราไมด์ ที่จำเป็นต่อผิวทั้ง 3 ชนิดนี้กลับเข้าผิวตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว อีกทั้งมีเทคโนโลยีที่ช่วยนำส่งสารสำคัญเข้าผิวย่อมทำให้ผิวกลับมาแข็งแรง ไม่แห้งลอกอีกต่อไปอย่างแน่นอน
ทั้งนี้ควรเลือกโฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ให้เหมาะกับสภาพผิวของตนเองดังนี้
ผิวแห้ง
เหมาะที่จะใช้โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ชนิดที่ไม่มีฟอง เพื่อลดโอกาสที่จะไปทำลายชั้นปราการผิว และไขมันไลปิดไบเลเยอร์ ซึ่งมีน้อยอยู่แล้ว ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดคือ เซราวี ไฮเดรติ้ง คลีนเซอร์ เหมาะสำหรับผิวที่บอบบางมีแนวโน้มแพ้ง่าย ผิวที่แห้ง-แห้งมาก อีกทั้งยังได้รับการรับรองจากสถาบัน NEA (National Eczema Association) อีกด้วย จึงทำให้คนที่มีปัญหาผิวแห้ง ผิวบอบบางมีแนวโน้มแพ้ง่าย คนที่เป็นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง สามารถใช้ได้อย่างสบายใจวิธีใช้: นวดเนื้อครีมบนผิวที่เปียกน้ำหมาด ๆ อย่างเบามือ อย่างน้อย 40 วินาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ผิวผสม/ผิวมัน
เหมาะที่จะใช้โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ชนิดที่มีฟอง เพื่อที่จะชะล้างไขมันส่วนเกินออกจากใบหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมคือ เซราวี โฟมมิ่ง คลีนเซอร์ ซึ่งมีนวัตกรรม Foaming Action ที่ทำความสะอาดผิวได้อย่างสะอาดหมดจด ผ่านการพิสูจน์แล้วว่า สามารถใช้ควบคู่กับยารักษาสิวได้ นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของไนอะซินาไมด์ หรือวิตามิน บี3 จึงช่วยปลอบประโลมผิว และลดการระคายเคืองที่เกิดจากการใช้ยารักษาสิวได้อีกด้วยวิธีใช้: ผสมเนื้อคลีนเซอร์ กับน้ำเล็กน้อย จนเกิดฟอง ลูบไล้เบา ๆ บนใบหน้าที่เปียกหมาด ๆ นวดวนอย่างเบามือ อย่างน้อย 40 วินาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาด
ผู้ที่แต่งหน้า มีเมคอัพบนผิว
เหมาะที่จะใช้โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ชนิดที่สามารถเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางและเมคอัพออกได้ในขั้นตอนเดียว เพื่อหลีกเลี่ยงการทำดับเบิ้ลคลีนซิ่ง ซึ่งจะทำให้ชั้นปราการผิวถูกทำลาย ผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมคือ ไฮเดรติ้ง ครีม-ทู-โฟม คลีนเซอร์ ซึ่งใช้สารทำความสะอาดชนิดพิเศษ ที่เรียกว่า Amino acid-based surfactant ที่สามารถทำความสะอาดคราบเมคอัพได้อย่างสะอาดหมดจดวิธีใช้: นวดวนผลิตภัณฑ์บนผิวที่มีเมคอัพได้เลย วนเบา ๆ จนกระทั่งเห็นคราบเมคอัพละลายออกมา จากนั้นแตะนำเล็กน้อย มาผสม นวดวนต่อ เนื้อผลิตภัณฑ์จากครีม จะกลายเป็นโฟม ล้างหน้าต่อได้เลยในขั้นตอนเดียว โดยไม่จำเป็นต้องใช้โฟมล้างหน้ามาล้างซ้ำอีกครั้ง ซึ่งสูตรนี้สามารถใช้ได้กับทั้งคนที่มีผิวแห้ง ผิวผสม และผิวมัน
สรุป
การดูแลผิวที่ดีที่สุดคือ ต้องเริ่มตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิว ง่าย ๆ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มแพ้ง่าย ที่มีการเติมเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิว กลับเข้าสู่ผิวตั้งแต่ขั้นตอนการล้างหน้าเลย โดยเลือกผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวให้เหมาะกับสภาพผิวของเราเอง รวมไปถึงไลฟ์สไตล์ของเรา เช่น การใช้เครื่องสำอาง เมคอัพแต่งหน้า เพียงแค่นี้ก็จะทำให้ชั้นปราการผิวของเราแข็งแรง ผิวจะมีสุขภาพดี ห่างไกลจากปัญหาผิวแห้ง ลอกเป็นขุย ผิวระคายเคืองง่าย หรือปัญหาสิว แน่นอน