วิธีดูแลผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ผื่น คัน แห้ง ลอก แดง ระคายเคืองง่าย

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่เป็น ๆ หาย ๆ และพบได้ในทุกเพศ ทุกวัย ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ มีโอกาสเป็นได้เหมือนกันหมด หากมีปัจจัยกระตุ้นมากระทบผิว ไม่ว่าจะเป็น ฝุ่น มลภาวะ อากาศเปลี่ยน เช่น ร้อนจัด หนาวจัด อากาศแห้ง เหงื่อออก ก็จะมีผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบขึ้นมาได้ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับปัจจัยกระตุ้นต่าง ๆ อาการของโรค และการดูแลผิวอย่างไรให้สุขภาพดีและห่างไกลจากผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง (Atopic dermatitis) คืออะไร?

ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ Atopic Dermatitis เป็นโรคผิวหนังที่พบได้บ่อย ส่วนใหญ่จะพบในเด็กมากกว่าผู้ใหญ่ โดยมีโอกาสพบได้ในเด็กมากถึง 30% เลย ส่วนในผู้ใหญ่พบประมาณ 10% คนที่มีปัญหาผิวแบบนี้ มักจะมีประวัติครอบครัว คุณพ่อหรือคุณแม่ที่เป็นโรคแบบนี้อยู่แล้วด้วย ก็สามารถที่จะส่งผ่านมาถึงลูกได้ และมีปัจจัยทางด้านภูมิต้านทานของร่างกายเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย แม้ว่าเมื่อเราอายุมากขึ้นแล้ว โอกาสเป็นจะน้อยลงก็ตาม แต่ถ้ามีปัจจัยกระตุ้นมากระทบผิวก็จะทำให้อาการกำเริบได้

ปัจจัยกระตุ้นผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

  • ระบบภูมิคุ้มกันและความไวต่อสิ่งเร้า ผิวของแต่ละคนมีความไวหรือเซนซิทีฟ ต่อสิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ ไม่เท่ากัน
  • ปัจจัยสิ่งแวดล้อม เช่น อาหาร ละอองเกสรดอกไม้ ขนสัตว์ และฝุ่น
  • สารก่อการระคายเคืองในผลิตภัณฑ์ เช่น น้ำหอม หรือสารกันเสียต่าง ๆ เช่น สารกลุ่มพาราเบน
  • ปัจจัยไลฟ์สไตล์ เช่น การนอนน้อย นอนไม่พอ หรือความเครียดสะสม
  • อากาศที่เปลี่ยนแปลงไปตามฤดูกาล อากาศร้อน เหงื่อออก หรือหน้าฝน ทำให้มีความอับชื้น หรือหน้าหนาวที่ทำให้ผิวแห้งมีน้ำระเหยออกจากผิวเยอะกว่าปกติ
  • ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวที่รุนแรงเกินไป หรือ อาบน้ำบ่อย อาบน้ำนานเกินไป หรืออาบน้ำที่อุณหภูมิสูงเกินไป ก็จะทำใช้ไขมันที่อยู่ในชั้นปราการผิวถูกทำลายไป ส่งผลให้สิ่งแปลกปลอมเข้าผิวได้ง่ายยิ่งขึ้น

อาการที่พบในผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

โดยมากอาการที่พบได้คือ ผิวแห้ง ผื่น คัน ระคายเคือง ผื่นแดง ผื่นขึ้นหน้า หรือผื่นขึ้นตามลำตัว ตามข้อพับ มีอาการคันร่วมด้วย และถ้าเราเผลอไปเกาก็จะทำให้เกิดการติดเชื้ออักเสบลุกลามตามมาได้ และอย่างที่ได้กล่าวไว้ตอนต้น อาการเหล่านี้มักจะเป็น ๆ หาย ๆ ถ้าช่วงใดที่ผิวแข็งแรงดีก็จะไม่มีอาการกำเริบของโรค ผิวก็จะเรียบเนียนสุขภาพดี แต่ถ้าช่วงใดผิวอ่อนแอ หรือเราดูแลผิวเราไม่ดี ก็จะทำให้โรคกำเริบ และผื่นกลับมาได้

วิธีดูแล รักษา ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

แพทย์ผิวหนังแนะนำการดูแลโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังไว้ง่าย ๆ ดังนี้

1.หากรู้ว่าอะไรคือปัจจัยกระตุ้นให้ผื่นขึ้น ก็ควรจะหลีกเลี่ยง เพราะแต่ละคนปัจจัยกระตุ้นอาจจะไม่เหมือนกันก็ได้ เช่น บางคนเจอฝุ่นผื่นก็จะขึ้น แต่บางคนเจอฝุ่นกลับไม่เป็นไร แต่พอเจอเรื่องความชื้นของอากาศ หรือความชื้นที่ผิวเช่นเหงื่อออก ก็จะไปกระตุ้นให้ผื่นขึ้นได้

2.ดูแลผิวเบื้องต้นอย่างถูกวิธี เช่น ไม่อาบน้ำอุ่นหรือร้อนจนเกินไป ไม่อาบน้ำนานไป (5-10 นาทีเพียงพอแล้ว) เลือกใช้คลีนเซอร์ที่มีความอ่อนโยน (ปราศจากสารสบู่) ระวังอย่าเกาผิว และควรตัดเล็บให้สั้นอยู่เสมอ

3.การเลือกใช้ครีมทาผิวที่ช่วยทำให้ปราการผิวแข็งแรง เช่น ครีมทาผิวที่มีส่วนผสมของไขมันที่สำคัญต่อชั้นผิว เช่น เซราไมด์ รวมไปถึงใช้ 3-minutes rule คือหลังจากอาบน้ำ ซับตัวให้หมาด ๆ แล้วทาครีมทาผิวเลยภายใน 3 นาทีหลังอาบน้ำ เพื่อให้ครีมทาผิวสามารถล็อคความชุ่มชื่นหลังการอาบน้ำได้ทันที ก่อนที่ความชุ่มชื่นจะระเหยไป และนอกจากนี้ควรทาครีมทาผิวเป็นประจำ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ไม่มีผื่นขึ้น เพื่อคงความแข็งแรงของปราการผิวให้มีสุขภาพดีเป็นประจำ

4.ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ควรเป็นผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากสารเคมีที่อาจจะไปกระตุ้นให้ผื่นกำเริบได้ เช่น ไม่ควรมีสารกันเสียพาราเบน, น้ำหอม, สารแต่งสี เป็นต้น

ปราการผิวและเซราไมด์เกี่ยวข้องอย่างไรกับผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

ชั้นปราการผิวมีความเกี่ยวข้องกับการเกิดโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังอย่างชัดเจน เพราะปราการผิวที่แข็งแรง จะช่วยปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งแวดล้อมภายนอก ฝุ่น ควัน มลภาวะ เชื้อแบคทีเรีย หรือเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ที่อาจก่อให้เกิดโรค รวมไปถึง สารเคมี สารก่อการระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ และในขณะเดียวกัน ชั้นปราการผิวก็ยังช่วยป้องกันการระเหยของน้ำและความชุ่มชื้นออกจากผิวได้อีกด้วย

การถูกทำลายของชั้นปราการผิว

ชั้นปราการผิวสามารถถูกทำลายได้จากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้...

  • ปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การเปลี่ยนแปลงของสภาวะอากาศ ร้อนเกินไปก็ทำให้มีน้ำระเหยออกจากผิวมากขึ้นกว่าปกติ, ความอับชื้น เช่น อากาศในหน้าฝน และความแห้งของอากาศในหน้าหนาว เหล่านี้ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้ปราการผิวมีการเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลให้โรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำเริบได้เวลาที่มีอากาศเปลี่ยนแปลง หรือเปลี่ยนฤดูกาล
  • ปัจจัยจากไลฟ์สไตล์และพฤติกรรม เช่น การอาบน้ำอุ่นเกินไป อาบน้ำนานเกินไป หรือใช้คลีนเซอร์ที่มีความเป็นด่าง (มีสารสบู่) ทำให้ปราการผิวถูกทำลายมากยิ่งขึ้น สังเกตได้จาก ถ้าใช้คลีนเซอร์แล้วผิวรู้สึกตึง ฝืดผิว หรือรู้สึกเอี๊ยด ๆ ที่ผิว ก็แสดงว่าความชุ่มชื่นและชั้นปราการผิวถูกทำลายไปแล้วระหว่างการอาบน้ำหรือล้างหน้า หรือคลีนเซอร์บางชนิดล้างออกยาก ก็มีโอกาสที่จะทำให้มีสารตกค้างอยู่บนผิว อาจเกิดการระคายเคืองหรือแพ้ได้เช่นกัน

จะเห็นได้เลยว่า ความแข็งแรงของชั้นปราการผิวมีบทบาทสำคัญเป็นอย่างมากที่จะทำให้ผิวแข็งแรง สุขภาพดี และห่างไกลจากปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ชั้นปราการผิวจะมีความแข็งแรงและมีสุขภาพดีได้จะต้องประกอบไปด้วยไขมันที่จำเป็นต่อผิว อาทิ เซราไมด์ ซึ่งมีอยู่ในสัดส่วนที่มากที่สุดถึง 50% นอกจากนี้ยังมีคอเลสเตอรอล และแฟตตี้แอซิดอีกด้วย โดยที่ไขมันทั้ง 3 ชนิดนี้จะช่วยให้เซลล์ผิวหนังเชื่อมติดกัน และไม่มีช่องว่างระหว่างเซลล์ผิว สิ่งแปลกปลอมต่าง ๆ สารก่อการระคายเคือง สารก่อภูมิแพ้ ก็จะไม่สามารถเข้าสู่ผิวได้ง่าย

เซราไมด์กับความชุ่มชื้นของผิว

มีงานวิจัยหลายชิ้นเลยที่แสดงให้เห็นแล้วว่า ผิวที่มีปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนังจะมีระดับของเซราไมด์ในชั้นผิวที่ลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะเซราไมด์ชนิดที่ 1 และ ชนิดที่ 3 โดยเซราไมด์ชนิดที่ 1 ปกติแล้วจะทำหน้าที่เป็นองค์ประกอบหลักของชั้นปราการผิว และเซราไมด์ชนิดที่ 3 จะทำหน้าที่ช่วยกักเก็บความชุ่มชื่นไว้ที่ผิวได้ยาวนานยิ่งขึ้น

ดังนั้นเราจึงควรดูแลชั้นปราการผิวให้แข็งแรง ด้วยผลิตภัณฑ์ที่ช่วยเสริมเกราะปกป้องผิว ที่มีส่วนผสมของ เซราไมด์ ที่จำเป็นต่อผิวทั้ง 3 ชนิด ได้แก่ เซราไมด์ 1,3,6-II การเติมเซราไมด์ทั้ง 3 ชนิดนี้กลับเข้าสู่ผิว จะช่วยดูแลชั้นปราการผิวให้กลับมาแข็งแรงและมีสุขภาพดีได้อีกครั้ง โดยควรเริ่มต้นตั้งแต่ขั้นตอนการทำความสะอาดผิวเลยเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

การเลือกครีมทาผิว และคลีนเซอร์ เพื่อดูแลปัญหาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง

การเลือกใช้คลีนเซอร์และครีมทาผิว มีความสำคัญเป็นอย่างมาก บางคนอาจจะละเลยไม่ทาครีมทาผิวในช่วงที่ผื่นไม่ได้กำเริบ (ระยะที่โรคสงบ) โดยคิดว่าไม่จำเป็นต้องทาครีมทาผิวหรอก ซึ่งแพทย์ผิวหนังส่วนใหญ่มักบอกเลยว่า การที่เราละเลยการทาครีมทาผิวในช่วงที่ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกำลังสงบอยู่ เป็นหลุมพรางที่น่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง เพราะทำให้ชั้นปราการผิวมีโอกาสที่จะอ่อนแอลง และทำให้ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังกลับมากำเริบได้ง่ายยิ่งขึ้น

ขั้นตอนการดูแลผิว จึงควรใช้คลีนเซอร์ที่ใช้แล้วสบายผิว อาทิ เซราวี โฟมมิ่ง คลีนเซอร์ และ เซราวี ไฮเดรติ้ง คลีนเซอร์ เพื่อลดโอกาสที่จะไปทำลายชั้นปราการผิว ซึ่งคลีนเซอร์ทั้ง 2 สูตรนี้ ยังได้รับการรับรองจากสถาบัน NEA (National Eczema Association) อีกด้วย จึงมั่นใจได้ในความอ่อนโยน

เซราวี โฟมมิ่ง คลีนเซอร์ เซราฟ

เซราวี ไฮเดรติ้ง คลีนเซอร์ เซราฟ

บำรุงผิวกาย

สำหรับการบำรุงผิวกายนั้น แนะนำ เซราวี มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ครีม สามารถทาได้เป็นประจำเพื่อคงสภาพความแข็งแรงของชั้นปราการผิวเอาไว้ เนื้อครีมเป็นสูตรเข้มข้นที่มีคุณสมบัติในการเคลือบคลุมผิวมากยิ่งขึ้น แต่ก็ยังให้ความสบายกับผิวเพราะมีพาวเดอร์ริ่งทัช ให้สัมผัสสบายผิวเหมือนทาแป้ง ไม่ทำให้ผิวรู้สึกเหนียวเหนอะหนะแต่อย่างใด แต่ถ้าบางคนอยากได้เนื้อที่เบามากยิ่งขึ้น หรือผิวของผู้ชายที่มักจะมีเส้นขนตามลำตัว ท่อนแขนท่อนขา แนะนำเป็น เซราวี มอยส์เจอร์ไรซิ่ง โลชั่น ซึ่งเนื้อจะเบากว่า และซึมซาบไวกว่า

เซราวี มอยส์เจอร์ไรซิ่ง ครีมและโลชั่น เซราฟ

บำรุงผิวหน้า

และสำหรับผิวหน้า ควรได้รับการบำรุงที่เพิ่มมากขึ้น แต่ก็ต้องคงเนื้อสัมผัสเบาสบายผิวอยู่ แนะนำเป็น เซราวี เฟเชี่ยล มอยส์เจอร์ไรซิ่ง พีเอ็ม (PM) จะเหมาะมาก ๆ เพราะด้วยส่วนผสมพิเศษที่เพิ่มขึ้นมาคือ 4% ไนอะซินาไมด์ ช่วยในการปลอบประโลมผิว ลดการอักเสบ ลดเลือนจุดด่างดำ การสร้างเม็ดสีเมลานินได้ด้วย

เซราวี เฟเชี่ยล มอยส์เจอร์ไรซิ่ง พีเอ็ม (PM)  เซราฟ

ปลอดภัย ต่อผิวที่บอบบางมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย

ในด้านความปลอดภัยนั้น… ผลิตภัณฑ์เซราวี มาพร้อมกับเทคโนโลยี MVE ที่เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะ ที่จะช่วยควบคุมการปลดปล่อยสารสำคัญต่าง ๆ ให้ซึมซาบเข้าสู่ผิวอย่างต่อเนื่องยาวนาน 24 ชั่วโมง (time-release) อีกทั้ง เป็นสูตร Hypoallergenic และยังปราศจากน้ำหอม สารแต่งสี สารกันเสียพาราเบนอีกด้วย ทุกสูตรไม่ก่อให้เกิดการอุดตันรูขุมขน (non-comedogenic) คนที่มีสภาพผิว บอบบาง มีแนวโน้มระคายเคืองง่าย สามารถใช้ได้อย่างสบายใจเลย

สรุป

เคล็ดลับในการดูแลปัญหาผิว ผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง หรือ ผื่นเซ็บเดิร์ม คือหมั่นดูแลผิวของคุณ ให้ชั้นปราการผิวแข็งแรงอยู่เสมอ แม้ว่าจะเป็นช่วงที่ผื่นภูมิแพ้ผิวหนังไม่กำเริบ (ช่วงที่โรคสงบอยู่) ด้วยเซราวี ที่มีส่วนผสมของเซราไมด์ที่จำเป็นต่อผิวถึง 3 ชนิด ให้ปราการผิวแข็งแรง มีสุขภาพดี เนียนนุ่ม ชุ่มชื่น เพื่อให้ผิวห่างไกลจากโรคผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง อาการผื่นขึ้นหน้า ผิวแห้ง หน้าลอก ผิวลอกเป็นขุย ได้เป็นอย่างดี และอย่าลืมปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ และปรับวิธีการดูแลผิวให้ถูกต้องแบบที่ได้กล่าวไว้ตอนต้นด้วย เพื่อผิวที่สวยสุขภาพดีกันไปยาว ๆ