ปราการป้องกันด่านแรก
“ผิวหนัง” เป็นอวัยวะที่ใหญ่ที่สุดในร่างกายของมนุษย์ และยังเป็นปราการป้องกันชั้นแรกที่ปกป้องร่างกายของเราจากสิ่งรุกรานภายนอก “ปราการผิว” (stratum corneum) เป็นผิวชั้นนอกสุดของผิวชั้นกำพร้า (epidermis) ก่อตัวในลักษณะคล้ายอิฐกับปูน มี corneocytes ทำหน้าที่เป็นก้อนอิฐ มีลิพิดและกรดไขมันอย่าง เซราไมด์ และคอเลสเตอรอล ทำหน้าที่เป็นปูน ผสานเข้าด้วยกันเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง
ถ้าหากชั้นลิพิดถูกทำลายหรืออ่อนแอก็จะนำไปสู่การสูญเสียความชุ่มชื้นของชั้นผิว ผิวของคุณจะดูแห้ง ไม่สดใส และอาจลอกเป็นขุย (ที่พบได้บ่อยคืออาการ ผิวแห้ง หน้าลอก ผื่นขึ้นหน้า) มีอาการคัน และไวต่อสิ่งรบกวนภายนอกมากขึ้น ซึ่งแปลว่าปราการผิวอ่อนแอและมีสิ่งรบกวนผิวหลุดรอดเข้าไปก่อให้เกิดการอักเสบได้ง่าย หรือที่เราเรียกว่าผิวบอบบางแพ้ง่าย
ปราการผิวอ่อนแอลงได้เพราะอะไร
มีสาเหตุหลายประการที่มีส่วนทำให้ปราการผิวอ่อนแอ นอกจากสิ่งรุกรานภายนอกหรือสิ่งแวดล้อมแล้ว ปราการผิวอาจอ่อนแอได้ตามกรรมพันธุ์ หรือด้วยอายุที่มากขึ้น และในคนที่ผิวสีอ่อน ก็พบว่ามีแนวโน้มที่ชั้นปราการผิวจะบางกว่าคนที่ผิวสีเข้มด้วย ดังนั้นเราจึงพบเห็นอาการผื่น ผิวระคายเคือง ผิวแพ้ง่ายได้บ่อยกว่าในคนที่ผิวสีอ่อน และด้วยอายุที่มากขึ้น ผิวก็เริ่มอ่อนแอลงด้วย ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มากจากองค์ประกอบของน้ำในร่างกายที่ลดต่ำลง (เมื่อเราเกิดมา เรามีน้ำเป็นองค์ประกอบของร่างกายมากถึง 75% และจะลดลงอย่างรวดเร็วเมื่ออายุมากขึ้น) ริ้วรอยก็เริ่มมาทักทาย ผิวเริ่มแห้ง แตก และปัญหาผิวก็ตามมามากมาย
ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวที่เราใช้ก็มีส่วนในการทำให้ปราการผิวอ่อนแอลงเช่นเดียวกัน ส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิวบางอย่าง เช่น น้ำหอม สามารถก่อให้เกิดอาการแพ้ในบางคนได้ หรือแม้แต่ครีมรักษาสิว และสเตียรอยด์สำหรับรักษาผื่นภูมิแพ้ผิวหนัง ที่ออกฤทธิ์ลดการอักเสบของผิวหนัง แต่ก็มีผลข้างเคียงให้ผิวบางในขณะเดียวกันด้วย ดังนั้นจำเป็นมากที่จะต้องเสริมปราการผิวให้แข็งแรง
เซราวี จะช่วยดูแลสุขภาพผิวได้อย่างไร
ไม่ว่าคุณจะมีมีแนวโน้มระคายเคืองง่ายหรือไม่ก็ตาม การเสริมปราการผิวจะช่วยให้ผิวของคุณดูสุขภาพดีขึ้นคืนความชุ่มชื้น และผิวมีความยืดหยุ่น และถ้าปราการผิวของคุณอยู่ในสภาพสมบูรณ์ มันจะช่วยลดการสูญเสียน้ำออกจากผิวหนัง ซึ่งก็ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งอิ่มน้ำมากขึ้น แม้ว่าผิวของเรามีการผลิตไฮยาลูรอนและเซราไมด์เองตามธรรมชาติเอง แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เพราะปัจจัยภายในและสิ่งรุกรานผิว อย่างเช่น กรรมพันธ์ มลภาวะ อาหารการกิน และอายุ ล้วนมีผลให้ผิวมีอัตราการผลิตไฮยาลูรอนและเซราไมด์ที่ต่ำลง การใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของไฮยาลูรอนและเซราไมด์ก็จะช่วยชดเชยเซราไมด์ส่วนที่สูญเสียไปได้
และด้วยการพัฒนาร่วมกันระหว่าง เซราวี และแพทย์ผิวหนัง มุ่งเน้นไปในการเสริมและปกป้องปราการผิวให้สุขภาพดี ผิวชุ่มชื้น ในผลิตภัณฑ์เซราวีจึงประกอบไปด้วย เซราไมด์ ที่สำคัญต่อผิว 3 ชนิด (เซราไมด์ 1, 3 และ 6) และพัฒนาสูตรที่ล้ำหน้าด้วนส่วมผสมที่เติมความชุ่มชื้นที่มีองค์ประกอบเหมือนผิวตามธรรมชาติ และปกป้องปราการผิวจากการถูกทำลาย อย่างเช่น ไฮยาลูรอล – โมเลกุลน้ำตาลที่สามารถดูดและกับเก็บความชุ่มชื้นได้มากถึง 1,000 เท่าของน้ำหนักโมเลกุล และเสริมด้วยเทคโนโลยีเฉพาะของเซราวี “MVE Technology” ที่ช่วยให้สารสำคัญในผลิตภัณฑ์ค่อยๆ ทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อการดูแลปกป้องผิวที่ยาวนาน 24 ชั่วโมง และสูตรของเซราวียังอ่อนโยน ปราศจากน้ำหอม สารก่อระคายเคือง และไม่ก่อให้เกิดการอุดตัน (non-comedogenic)
ผลิตภัณฑ์เซราวี มีทั้งโลชั่นบำรุงผิว ครีมสำหรับผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย ครีมทามือ ครีมทาบริเวณรอบดวงตา เจลทำความสะอาดผิว โฟมล้างหน้าสำหรับผิวมีแนวโน้มระคายเคืองง่าย สำหรับทุกสภาพผิว ในราคาที่เข้าถึงได้
